รถขุด หรือที่ได้ยินกันบ่อยๆ ว่า รถแม็คโคร ส่วนประกอบหลักที่ขาดไม่ได้ในการใช้งานก็ต้องเป็น บุ้งกี๋ (Bucket) และบุ้งกี๋ก็จะมีฟันบุ้งกี๋ ทำหน้าที่ขุด เจาะ ซึ่งจะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมในการใช้งาน ไม่ว่าจะงานดิน ทราย ดินดาน ดินลูกรัง หินหน้างานต่างกัน การใช้งานต่างกัน ฟันบุ้งกี๋ของรถแม็คโครก็ต่างกันไป
ซึ่งโดยทั่วไป สามารถแบ่งประเภทของฟันบุ้งกี๋ ออกได้ใน 2 ลักษณะ คือ 1 แบ่งตามวิธีการผลิต และ 2 ประเภทของการใช้งาน
ความแตกต่างระหว่าง Casting & Forgings
ฟันบุ้งกี๋รถแม็คโคร จะมีกรรมวิธีการผลิต 2 แบบหลักๆ คือ Casting และ Forgings
• Casting (การหล่อขึ้นรูป) คือ การหล่อโดยการเอาเหล็กที่หลอมละลายเทลงไปในแม่พิมพ์ แล้วรอให้วัสดุจับตัวเป็นของแข็ง จึงแกะแม่พิมพ์ออก จะได้รูปทรงตามแม่พิมพ์
• Forgings (การปั๊มขึ้นรูป) คือ การขึ้นรูปโลหะโดยใช้แรงอัดสูงลงบนเนื้อเหล็กร้อน วิธีนี้ทำให้เหล็กข้างในไม่มีโพรงอากาศ เหล็กจะมีความเหนียวแน่นมาก เนื้อเหล็กจะมีความสม่ำเสมอกว่าเหล็กหล่อ
ประเภทตามการใช้งาน ฟันบุ้งกี๋รถแม็คโคร แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ
• ฟันบุ้งกี๋รถแม็คโคร แบบมาตรฐาน (Standard)
ลักษณะของฟันบุ้งกี๋รถแม็คโครแบบมาตรฐาน รูปทรงจะเป็นหน้าตัด จะเป็นแบบมาตรฐานที่มาพร้อมกับรถ เหมาะสำหรับงานขุดทั่วไป ขุดบ่อดิน บ่อทราย รับเหมาก่อสร้าง
• ฟันบุ้งกี๋รถแม็คโครสำหรับขุดดินดาน ดินลูกรัง ดินแข็ง (Rock Chisel)
จะมีลักษณะที่แข็งแรงขึ้น ทนต่อการสึกหรอ มีความแหลมมากกว่าทรงมาตรฐานเพื่อเพิ่มแรงขุด เหมาะสำหรับประเภทงานที่เป็นดินแข็ง ดินลูกรัง ดินดาน จะทำให้การขุดเจาะดินหรือหินที่มีความแข็ง ได้ประสิทธิภาพมากกว่าแบบมาตรฐาน
• ฟันบุ้งกี๋รถแม็คโคร สำหรับขุดเจาะหินในเหมืองแร่ (Tiger Long)
ลักษณะจะแตกต่างจาก 2 แบบแรก มีรูปทรงที่แหลมคม สามารถเจาะ ขุด หินแข็งๆ ได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับโรงโม่หิน เหมืองแร่ หรือหน้างานที่เป็นหินแข็ง ดินที่แข็งจัด
การเลือกฟันรถแม็คโครก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้งานดำเนินไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรเลือกฟันที่เหมาะกับหน้างาน และควรตรวจเช็คสภาพการสึกหรอของฟัน ควรเปลี่ยนให้มีความแหลมคมอยู่เสมอ จะช่วยลดแรงต้านในการขุด และยังช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย